ตาราง Layers
ความหมายของหัวข้อ Function ในตาราง Layers ของหน้าต่าง Edit Assembly (Revit)
Function ในตาราง Layers ของ Edit Assembly สำหรับผนังใน Revit คือการระบุ “หน้าที่” หรือ “บทบาท” ของแต่ละชั้นวัสดุในผนัง เพื่อให้ Revit เข้าใจโครงสร้างและจัดการกับการเชื่อมต่อ (Wall Join) ระหว่างผนังแต่ละประเภทได้อย่างถูกต้อง รวมถึงช่วยในการถอดปริมาณวัสดุและการแสดงผลในแบบก่อสร้าง
ประเภทของ Function และความหมาย
แต่ละ Layer จะต้องเลือก Function จากรายการที่ Revit กำหนดไว้ (ไม่สามารถเพิ่มหรือลบรายการนี้ได้) โดยแต่ละ Function จะมี “Priority” หรือระดับความสำคัญที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาการเชื่อมต่อผนัง เช่น เมื่อผนังสองประเภทมาชนกัน Revit จะใช้ลำดับ Priority นี้ในการตัดสินใจว่าชั้นไหนควรแสดงผลต่อเนื่องหรือถูกตัดขาด23.
Function | Priority | ความหมาย/ตัวอย่างการใช้งาน |
---|---|---|
Structure | 1 | ชั้นโครงสร้างหลัก เช่น คอนกรีต, อิฐบล็อก, ผนังคอนกรีตเสริมเหล็ก |
Substrate | 2 | ชั้นรองรับวัสดุอื่น เช่น แผ่นไม้, แผ่นยิปซัม, ไม้อัด |
Thermal/Air Layer | 3 | ชั้นฉนวนกันความร้อน/อากาศ เช่น ฉนวนใยแก้ว, โฟม, ช่องว่างอากาศ |
Finish 1 | 4 | ชั้นตกแต่งผิวภายนอก เช่น ฉาบปูน, กระเบื้อง, สีทาผนัง |
Finish 2 | 5 | ชั้นตกแต่งผิวภายใน เช่น ฉาบปูน, สีทาผนัง, วอลเปเปอร์ |
Membrane Layer | – | ชั้นกันซึมหรือกันไอ เช่น แผ่นฟิล์มกันความชื้น (ความหนา 0 มม.) |
- Priority: ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งมีความสำคัญสูง (Structure = 1 สูงสุด, Finish 2 = 5 ต่ำสุด) ใช้ในการแก้ไข Wall Join3.
วิธีการใช้งาน Function
- กำหนด Function ให้แต่ละ Layer
- ผลต่อการเชื่อมต่อผนัง (Wall Join)
- Revit จะใช้ Function และ Priority ในการตัดสินใจว่าเมื่อผนังสองประเภทชนกัน ชั้นใดควรต่อเนื่อง ชั้นใดควรหยุด เช่น ชั้น Structure จะต่อเนื่องกันก่อน (Priority 1) แล้วจึงค่อยต่อเนื่องชั้น Finish3.
- ผลต่อการถอดปริมาณและการแสดงผล
ตัวอย่างการกำหนด Function
- ผนังอิฐฉาบปูน:
- ฉาบปูนด้านนอก = Finish 1
- อิฐบล็อก = Structure
- ฉนวน = Thermal/Air Layer
- ฉาบปูนด้านใน = Finish 2
สรุป:
หัวข้อ Function ในตาราง Layers ของ Edit Assembly มีไว้เพื่อระบุหน้าที่ของแต่ละชั้นวัสดุในผนัง ช่วยให้ Revit จัดการ Wall Join ได้ถูกต้อง ถอดปริมาณวัสดุแม่นยำ และแสดงผลในแบบก่อสร้างอย่างมืออาชีพ
Add a Sweep to a Wall Type
วิธีการเพิ่ม Sweep ให้กับ Compound Wall ซึ่งมีการจัดเรียงชั้นวัสดุหลายชั้นในแนวตั้ง
- วัตถุประสงค์ของ Sweep:
Sweep คือการเพิ่มวัสดุหรือลวดลายที่มีรูปทรงเฉพาะลงไปในผนัง ทำให้ผนังมีรายละเอียดเพิ่มเติมในแง่ของการตกแต่งหรือปรับเปลี่ยนรูปทรง โดย Sweep จะวางไว้ในตำแหน่งที่กำหนดภายในโครงสร้างของผนัง - ขั้นตอนการเพิ่ม Sweep:
- เปิดการแก้ไข Assembly ของผนัง: ก่อนที่จะเพิ่ม Sweep คุณต้องเปิดหน้าต่าง Edit Assembly สำหรับประเภทผนังที่ต้องการแก้ไข
- Preview: ปรับ view ให้เป็น Section: Modify type
- เข้าไปที่ส่วน Sweeps: ภายใน Edit Assembly ให้คลิกที่แท็บหรือปุ่ม Sweeps เพื่อเข้าสู่หน้าต่างจัดการ Wall Sweeps
- เพิ่ม Sweep ใหม่: ในหน้าต่าง Wall Sweeps ให้คลิกปุ่ม Add เพื่อตั้งค่า Sweep ใหม่
- ในคอลัมน์ Profile ให้เลือกโปรไฟล์ที่ต้องการจากรายการที่ปรากฏ
- กำหนดวัสดุ (Material) ที่จะใช้สำหรับ Sweep
- ระบุระยะห่าง (Distance) จากส่วนบนหรือส่วนฐานของผนัง โดยเลือกจากตัวเลือก top หรือ base ในคอลัมน์ From
- เลือกด้าน (Side) ว่าจะเพิ่ม Sweep ที่ด้านในหรือด้านนอกของผนัง
- สามารถปรับค่า Offset เพื่อเลื่อนตำแหน่งของ Sweep โดยค่า Offset เชิงลบจะทำให้ Sweep เลื่อนเข้าไปใกล้แกนกลางของผนัง
- มีตัวเลือก Flip สำหรับการวัดระยะจากด้านบนของโปรไฟล์ Sweep แทนที่จะเป็นด้านล่าง
- ระบุค่า Setback เพื่อกำหนดระยะห่างของ Sweep จากส่วนที่มีการติดตั้งเช่น หน้าต่างหรือประตู
- ตัวเลือก Cuts Wall นั้นจะกำหนดว่า Sweep จะตัดชิ้นส่วนของผนังออกไปหรือไม่ เมื่อถูกฝังเข้าไปในผนัง
- ตัวเลือก Cuttable ทำให้ Sweep ถูกตัดเมื่อติดตั้งองค์ประกอบอื่นในผนัง (เช่น หน้าต่างหรือประตู)
- เมื่อกำหนดค่าเรียบร้อยแล้ว ให้คลิก OK เพื่อบันทึกการเปลี่ยนแปลง
- การใช้งานในสภาพแวดล้อมการออกแบบ:
การเพิ่ม Sweep ให้กับผนังเป็นฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การปรับปรุงรายละเอียดในแบบผนัง การใช้งานนี้เหมาะสำหรับผู้ใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการออกแบบและปรับแต่งผนังเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม
Leave a Reply